กริยาช่อง 3 คืออะไร และ ตัวอย่างกริยา 3 ช่องที่ใช้บ่อยมีอะไรบ้าง

เมื่อเพื่อนๆเรียนรู้เกี่ยวกับ tense เพื่อนๆก็มักจะเห็นว่า ในโครงสร้างของแต่ละ tense นั้นไม่เหมือนกัน บาง tense ใช้ กริยาช่องที่ 1 บาง tense ใช้ กริยาช่องที่ 2 และบาง tense ใช้ กริยาช่องที่ 3 วันนี้เราจึงจะพาเพื่อนๆมาทำความรู้จักเกี่ยวกับ กริยา 3 ช่อง กันค่ะ โดยเราได้รวบรวม ตัวอย่างกริยา 3 ช่องที่ใช้บ่อย มาประกอบการ อธิบายเกี่ยวกับ กริยา 3 ช่อง ให้เพื่อนๆได้เข้าใจอย่างละเอียด โดยเราจะมาเริ่มกันที่ กริยา 3 ช่อง คืออะไร กริยา 3 ช่อง มีหลักการใช้อย่างไร และมาต่อกันที่ ตัวอย่างกริยาช่อง 3 ที่ใช้บ่อยมีอะไรบ้าง กันนะคะ

กริยา 3 ช่อง คืออะไร

กริยา 3 ช่อง คือ คำกริยาที่ถูกแบ่งออกเป็น 3 ช่อง เพื่อบ่งบอกว่าเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในเวลาไหน อย่างไร

กริยา 3 ช่อง มีหลักการใช้อย่างไร

กริยา 3 ช่องนั้น จะถูกนำมาใช้กับ ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรื่อง Tense เพราะโครงสร้างของแต่ละ tense นั้นไม่เหมือนกัน

กริยาช่องที่ 1 (รูปย่อคือ V.1) จะใช้กับเหตุการณ์ใน ปัจจบัน
กริยาช่องที่ 2 (รูปย่อคือ V.2) จะใช้กับเหตุการณ์ใน อดีต
กริยาช่องที่ 3 (รูปย่อคือ V.3) จะใช้กับเหตุการณ์ใน perfect tense ทุกชนิด

ตัวอย่างกริยา 3 ช่องที่ใช้บ่อย

**ตารางแสดงตัวอย่าง กริยา 3 ช่องที่ใช้บ่อย**
กริยาช่องที่ 1	กริยาช่องที่ 2	กริยาช่องที่ 3	ความหมาย
arrive	arrived	arrived	มาถึง
answer	answered	answered	ตอบ
buy	bought	bought	ซื้อ
bite	bit	bitten	กัด
become	became	become	กลายเป็น
begin	began	begun	เริ่มต้น
come	came	come	มา
cost	cost	cost	มีราคา
cut	cut	cut	ตัด
do	did	done	ทำ
draw	drew	drawn	วาด/เขียน
drive	drove	driven	ขับรถ
drink	drank	drunk	ดื่ม
eat	ate	eaten	กิน
feel	felt	felt	รู้สึก
fly	flew	flown	บิน
get	got	got	ได้รับ/เอา
go	went	gone	ไป
give	gave	given	ให้
have	had	had	มี
hear	heard	heard	ได้ยิน
know	knew	known	รู้
lose	lost	lost	แพ้/ทำหาย
love	loved	loved	รัก
look	looked	looked	มอง
make	made	made	ทำ
meet	met	met	พบ
pay	paid	paid	จ่าย
put	put	put	วาง
read	read	read	อ่าน
run	ran	run	วิ่ง
rain	rained	raind	ฝนตก
say	said	said	พูด
see	saw	seen	เห็น
sell	sold	sold	ขาย
sing	sang	sung	ร้องเพลง
sit	sat	sat	นั่ง
sleep	slept	slept	หลับ
speak	spoke	spoken	พูด
swim	swam	swum	ว่ายน้ำ
stop	stopped	stopped	หยุด
study	studied	studied	เรียน
take	took	taken	พาไป
tell	told	told	บอก
teach	taught	taught	สอน
think	thought	thought	คิด
visit	visited	visited	เยี่ยม/เที่ยว
wear	wore	worn	สวม/ใส่
write	wrote	written	เขียน
wait	waited	waited	รอ

เป็นยังไงบ้างคะเพื่อนๆ กับกริยาทั้ง 3 ช่อง พอจะเข้าใจกันแล้วใช่รึเปล่าคะ เพราะถ้าเข้าใจดีแล้ว ทีนี้พอนำไปใช้ เราก็จะไม่งงอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ และถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจเกี่ยวกับเรื่องของ tense เพื่อนๆสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความที่เกี่ยวข้อง ข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ