Grammar Conversation Vocabulary

การใช้ a an the (The Articles) หรือ คำนำหน้านาม ฉบับเข้าใจง่าย

    The Articles คือ คำนำหน้านาม ในภาษาอังกฤษ ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่ a, an, the และเจ้าสามตัวนี้ สำคัญยังไง ทำไมเราจึงต้องเรียนรู้กัน นั่นก็เพราะว่าในภาษาอังกฤษ บางครั้งคำนามก็จำเป็นต้องมี คำนำหน้านาม (articles) เพื่อเป็นการบ่งบอกว่านามนั้นมีความหมายเฉพาะเจาะจงหรือไม่ เพราะฉะนั้น articles จึงมีความสำคัญ ที่เราควรจะทำความรู้จักกับมันไว้ ส่วนวิธี การใช้ a an the ก็ง่ายๆไม่ยากค่ะ คือ a an ใช้กับ คำนามนับได้ที่เป็นเอกพจน์ ไม่มีความเฉพาะเจาะจง ส่วน the ใช้กับ คำนามทุกชนิด ที่มีความหมายเฉพาะเจาะจงค่ะ
   
เผื่อเพื่อนๆ จะงง กับคำว่า เฉพาะเจาะจง และ ไม่เฉพาะเจาะจง เราจึงได้เตรียมตัวอย่างมาให้ลองทำความเข้าใจกันนิดนึงนะคะ

ตัวอย่างแรก

  • I am going to a coffee shop. 
    ประโยคแรกใช้ a แสดงว่าคนพูดยัง ไม่ได้เจาะจง ว่าจะไปร้านไหน (อารมณ์ประมาณว่าจะไปร้านกาแฟนะ แต่ยังไม่ได้เลือกร้าน เพราะฉะนั้นอาจจะเป็นร้านไหนก็ได้)
  • I am going to the coffee shop.
    ประโยคที่สองใช้ the แสดงว่าเฉพาะเจาะจง คือคนพูดกับคนฟังรู้กันแล้ว ว่าพูดถึงร้านกาแฟร้านไหน 

ตัวอย่างที่สอง

  • I am going to buy a telephone. 
    ประโยคแรกใช้ a แสดงว่ายังไม่ได้เลือกรุ่น/ยี่ห้อ ยังไม่ได้เจาะจง
  • I am going to buy the telephone.
    ประโยคที่สองใช้ the แสดงว่าผู้พูดและผู้ฟังรู้กันอยู่แล้ว ว่าหมายถึงรุ่นไหน/ยี่ห้อไหน เคยคุยกันแล้ว/เล็งเอาไว้แล้ว 

    พอจะเข้าใจกันบ้างแล้วใช่ไหมคะ เมื่อเราพอจะแยกได้แล้วว่าอันไหนน่าจะใช้ประมาณไหน เรามาลองดูรายละเอียดของ articles แต่ละตัวกันเลยดีกว่าค่ะ

การใช้ a an the (Articles)

1. a และ an

จะใช้กับ คำนามนับได้ที่เป็นเอกพจน์ และมีความหมายไม่เฉพาะเจาะจง

  • การใช้ a
    - ใช้นำหน้าคำนามที่ "ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ" เช่น a boy = เด็กชายหนึ่งคน, a book = หนังสือหนึ่งเล่ม, a bird = นกหนึ่งตัว
    - ใช้นำหน้าคำนามที่ "ออกเสียงพยัญชนะ"  เช่น a university = มหาวิทยาลัยหนึ่งแห่ง (คำนามนี้ขึ้นต้นด้วยตัว u แต่ออกเสียงเป็นพยัญชนะ "ยูนิเวอร์ซิที" จึงใช้ a)
  • การใช้ an 
    - ใช้นำหน้าคำนามที่ "ขึ้นต้นด้วยสระ ( a, e, i, o, u )"     เช่น an ant = มดหนึ่งตัว, an egg = ไข่หนึ่งฟอง, an apple = แอปเปิ้ลหนึ่งผล 
    - ใช้นำหน้าคำนามที่ "ออกเสียงเป็นสระ ( a, e, i, o, u )" เช่น an hour = หนึ่งชั่วโมง (คำนามนี้ขึ้นต้นด้วยตัว h แต่ออกเสียงเป็นสระ "เอาเออร์" จึงใช้ an )

2. the

จะใช้กับ คำนามที่มีความหมายเฉพาะเจาะจง ทั้งที่เป็นเอกพจน์ พหูพจน์ รวมถึงคำนามนับได้ และคำนามนับไม่ได้ 

  • การใช้ the เรามักใช้ the กับอะไรที่มีเพียงสิ่งเดียวในโลก
        เช่น the sun = ดวงอาทิตย์, the moon = ดวงจันทร์, the earth = โลก เป็นต้น
  • เรามักใช้ the เมื่อกล่าวถึงอะไรเป็นครั้งที่ 2  
        คือ เวลาที่เรากล่าวถึงอะไรเป็นครั้งที่สองในประโยค เราก็จะเปลี่ยนมาใช้เป็น the แทน ถึงแม้ในครั้งแรกจะเป็น a, an (เพราะอาจจะมีความหมายไม่เฉพาะเจาะจง) แต่เมื่อกล่าวถึงซ้ำเป็นครั้งที่สอง ต้องเปลี่ยนมาเป็น the เพื่อให้ความหมายเป็นเฉพาะเจาะจงว่า คำๆนี้ ก็คือคำเดียวกันกับคำที่เราเพิ่งกล่าวไปครั้งแรก
    ตัวอย่างที่ 1
        - I tried a new Korean restaurant yesterday. เมื่อวานฉันไปลองร้านอาหารเกาหลีใหม่มา (ใช้ a เพราะพูดถึงครั้งแรก)
        - The restaurant was very good. = ร้านมันดีมากเลย (เปลี่ยนมาเป็น the เพราะพูดครั้งที่สอง และคนฟังรู้แล้วว่าหมายถึงร้านไหน)
    ตัวอย่างที่ 2
        - I live in an apartment. = ฉันอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ 
    (ใช้ an เพราะพูดถึงครั้งแรก และนามนั้นขึ้นต้นด้วย สระ a, e, i, o, u )
        - The apartment is new = เป็นอพาร์ทเม้นท์ใหม (เปลี่ยนมาเป็น the เพราะพูดครั้งที่สอง และคนฟังรู้แล้วว่าหมายถึงอพาร์ทเม้นท์ไหน)

    เมื่อเรียนรู้วิธีการใช้ a, an, the ไปแล้ว เพื่อนๆรู้หรือเปล่า ว่ามีคำอยู่บางจำพวกที่ไม่สามารถใช้ articles ได้ คำเหล่านั้นได้แก่อะไรบ้าง เพื่อนๆสามารถอ่านได้จากบทความ คำเหล่านี้ไม่มี Articles

Grammarlearn.com (แกรมม่าเลิร์น ดอท คอม)

เว็บไซต์สอนภาษาอังกฤษฟรี เนื้อหาครบถ้วน เข้าใจง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาแหล่งเรียนรู้ภาษาอังกฤษเบื้องต้น

Privacy Policy

© 2014 - 2024 grammarlearn.com All Right Reserved.